ถ้าใครมาเที่ยวที่จังหวัดน่าน อีกสถานที่ที่ นู๋JUB ขอแนะนำให้เพื่อนๆก็คือ วัดมิ่งเมือง โดยวัดแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ถนนสุริยพงศ์ เป็นที่ประดิษฐานเสาหลักเมืองของจังหวัดน่าน ประวัติของวัดมิ่งเมือง คือ เดิมเป็นวัดร้าง มีเสาหลักเมืองที่เป็นท่อนซุงขนาดใหญ่สองคนโอบ พบที่ซากวิหาร ในราวปี 2400 เจ้าอนันตวรฤทธิเดช เจ้าครองนครน่านสถาปนาวัด ใหม่ ตั้งชื่อว่า วัดมิ่งเมือง ตามชื่อที่เรียกเสาหลักเมืองว่า เสามิ่งเมือง ต่อมาปี 2527 ได้มีการรื้อถอนและสร้างอุโบสถหลังใหม่เป็น แบบล้านนาร่วมสมัยแบบใหม่ในปัจจุบัน โดยบริเวณด้านหน้าพระอุโบสถของวัดมิ่งเมือง จะเป็นที่ประดิษฐานของ เสาพระหลักเมืองน่าน ซึ่งประดิษฐานอยู่ในศาลาจตุรมุขสีขาวที่มีลวดลายปูนปั้นที่งดงาม มียอดพรหมสี่หน้าเป็นตัวอาคาร เสาหลักเมืองมีความสูงโดยประมาณ 3 เมตร ฐานประดับด้วยไม้แกะลวดลายลงรักปิดทอง ยอดเสาแกะสลักเป็นรูปพระพรหมพักตร์มีชื่อ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ลักษณะเด่นของวัดมิ่งเมือง คือ ลายปูนปั้นที่ผนังด้านนอกของพระอุโบสถ มีความสวยงามวิจิตรบรรจงมาก เป็นฝีมือตระกูลช่างเชียงแสน ความประณีตของลายปูนปั้น ทำให้อุโบสถแห่งนี้มีความงามและมีเสน่ห์ไม่แพ้วัดอื่นๆ ของจังหวัดน่านเลย ก่อนจะเข้าอุโบสถเพื่อรับชมจุดเด่นที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็จะมีการตีระฆังเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย และอีกจุดเด่นที่สำคัญที่ว่านั่นก็คือ ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในที่แสดงประวัติความเป็นมาของจังหวัดน่าน และแสดงให้เห็นวิถีชีวิตของชาวเมืองน่าน โดยเป็นฝีมือของช่างท้องถิ่นในยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ภายในยังเป็นที่ประดิษฐานองค์พระประธาน โดยเป็นพระพุทธรูปปูนปั้น &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%99-%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7-%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%a1%e0%b8%b4%e0%b9%88/">Continued</a>

ถ้ามีโอกาสได้ไปเที่ยวน่าน แต่ไม่ได้แวะไปที่ วัดศรีพันต้น ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน ขอบอกเลยว่าพลาดมาก เพราะ “วัดศรีพันต้น” นับว่าเป็นหนึ่งวัดที่มีความเก่าแก่และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของจังหวัดน่าน คือ มีพระวิหารและพระอุโบสถเป็นสีทองทั้งหลัง ทางด้านบริเวณหน้าพระวิหารจะมีรูปปั้นพญานาคเจ็ดเศียรสีทองสวยงาม ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดเด่นของวัดศรีพันต้นกันเลยทีเดียว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา งั้นเดี๋ยว นู๋JUB ขออาสาพาทุกๆ คนไปชมความงดงามของวัดศรีพันต้นกันเลยดีกว่าค่ะ Let&#8217;s go! วัดศรีพันต้น ตั้งอยู่ใน ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน ถูกสร้างขึ้นโดย พญาพันต้น เจ้าผู้ครองนครน่าน แห่งราชวงศ์ภูคา (ครองนครน่าน ระหว่าง พ.ศ. 1960 &#8211; 1969 : ช่วงสุโขทัยตอนปลายหรืออยุธยาตอนต้น) ชื่อวัดตรงกับนามผู้สร้าง คือ พญาพันต้น บางสมัยเรียกว่า วัดสลีพันต้น (คำว่า สลี หมายถึง ต้นโพธิ์) เนื่องจากในอดีตมีต้นโพธิ์ใหญ่อยู่ด้านทิศเหนือและทิศใต้ของวัด ปัจจุบันได้ถูกโค่นเพื่อตัดเป็นถนนแล้ว ซึ่งถนนที่ว่านั้นก็คือ “ถนนเจ้าฟ้า” นั่นเอง วัดศรีพันต้นได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา (อ่านว่า วิสุงคามะสีมา คือ &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%99-%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7-%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%a8%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%9e/">Continued</a>

หากใครกำลังมองหาสถานที่สำหรับพาครอบครัว พาเพื่อน หรือพาแฟน มาดินเนอร์ นู๋JUB ขอแนะนำให้ไปล่องเรือดินเนอร์หรู ชมวิวเจ้าพระยา เรือ Meridien Cruise เพราะ มีทั้งความหรูหรา วิวและบรรยากาศดี มีอาหารบุฟเฟต์นานาชาติ พร้อมด้วยการแสดง ดนตรีสดให้รับชมกัน จะเป็นยังไงบ้าง ไปดูกับนู๋JUB กันเลยค่ะ เรือเมอร์ริเดียน ครูซ เป็นเรือหรูลำใหม่เริ่มให้บริการในปี 2561 เรือนี้ไม่ธรรมดาหรูหรา บรรยากาศดี ชั้นสองเป็นแบบเปิดโล่งมีหลังคา ล่องเรือทานอาหารกับเรือเมอริเดียน ครูซ ใช้เวลาล่องเรือทานอาหาร 2 ชั่วโมง เรือออกจากท่าเรือห้างไอคอน สยาม โดยภายในเรือจะแบ่งโซนออกเป็น 3 โซน ได้แก่ โซนหัวเรือเป็นส่วนที่เปิดโล่งจุได้ 40 ท่านโซนในห้องแอร์ชั้น 1 สามารถจุได้ 120-140 ท่าน และโซนชั้นสองเป็นแบบ Open Air สามารถจุได้ประมาณ 120-140 ท่าน โซนหัวเรือเป็นส่วนที่เปิดโล่งจุได้ 40 ท่าน โซนชั้นสองเป็นแบบ Open &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%a5%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%ab%e0%b8%a3%e0%b8%b9-%e0%b8%8a%e0%b8%a1%e0%b8%a7/">Continued</a>

สายบุญท่านใดที่กำลังวัดสวยๆไม่ควรพลาดกับ วัดตระพังทอง จังหวัดสุโขทัย วัดเก่าแก่ ที่สร้างในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช นมัสการสิ่งศักสิทธิ์พร้อมชอมความงามของสถาปัตยกรรมโบราณที่น่าสนใจอย่างบราณที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางสระน้ำที่เรียกว่า “ตระพังทอง” มีเจดีย์ประธานทรงระฆังที่ใช้ศิลาแลงก่อเป็นฐาน จะสวยมางเเค่ไหน&#8230;นู๋JUB จะพาไปชมกัน! วัดตระพังทอง เป็นวัดที่ตั้งอยู่ภายในกำแพงเมืองทางทิศตะวันออกของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง จ.สุโขทัย โบราณสถานแห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะกลางสระน้ำที่เรียกว่า “ตระพังทอง”มีเจดีย์ประธานทรงระฆังที่ใช้ศิลาแลงก่อเป็นฐาน ส่วนด้านบนนั้นใช้อิฐเป็นวัสดุก่อสร้างรอบเจดีย์ประธาน และมีเจดีย์รายล้อมจำนวน 8 องค์ มณฑปจัตุรมุข ตั้งอยู่ด้านหน้าเจดีย์ประธาน เป็นมณฑปขนาดเล็ก ภายในมณฑปประดิษฐาน รอยพระพุทธบาทเบื้องขวา จากหินสีเทาดำ สร้างขึ้นสมัย พระมหาธรรมราชาลิไทเมื่อปี พ.ศ. 1902 โดยทรงให้จำลองแบบจากศรีลังกา และได้นำไปประดิษฐานไว้ที่เขาพระบาทใหญ่ (เขาสุมนกูฎ) ปัจจุบันได้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่มณฑปจัตุรมุข ภายในรอยพระพุทธบาทนั้นจำหลักเป็นลายมงคลหนึ่งร้อยแปด และลายดอกจันโดยรอบ เจดีย์ประธานตั้งอยู่ระหว่างพระอุโบสถและมณฑปจัตุรมุข เป็นเจดีย์ทรงระฆังสมัยสุโขทัย ฐานก่อด้วยหินศิลาแลง ส่วนบนก่อด้วยอิฐ เจดีย์ตั้งอยู่บนฐานบัวลูกแก้วอกไก่รูปสี่เหลี่ยม ส่วนบนเป็นฐานกลมลดหลั่นขึ้นไป ถึงชั้นบัวถลา ถัดขั้นไปเป็นชั้นบัลลังก์ ก้านฉัตร และปลียอด นอกจากนี้ที่วัดตระพังทองยังมีกิจกรรมที่สำคัญนั่นก็คือ การใส่บาตรรับอรุณ สะพานบุญสุโขทัย เป็นกิจกรรมยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวบ้านในพื้นที่ โดยจัดที่สะพานหน้าวัดตระพังทอง เวลาประมาณ 6 โมงเช้าทุกวัน&nbsp;&nbsp; และมาต่อกันที่ตลาดเช้า เพียงเดินมานิดเดียวใกล้ๆวัดตระพังทอง &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b9%82%e0%b8%82%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%a2-%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7-%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%87/">Continued</a>

หากท่านใดที่อยากสัมผัสสถานที่ท่องเที่ยวใหม่สุดล้ำแห่งต้นแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีสถาปัตยกรรมแห่งการผสานวิถีชีวิตริมน้ำ ไม่ควรพลาดที่ พาสาน นครสวรรค์ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่บริเวณเกาะยม จะสวยงามแค่ไหน&#8230;นู๋JUBจะพาไปชมกัน พาสาน ตั้งอยู่ที่จังหวัดนครสวรรค์ โดยโครงการนี้ริเริ่มมาจากการระดมทุนจากการเรี่ยไรเงินบริจาค และได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านในการปรึกษาหารือในการพัฒนาพื้นที่ตรงนี้ และมีการเปิดการประกวดแบบต้นแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้น ผลงานที่ได้รับคัดเลือกนั้นมีชื่อว่า “พาสาน” คำว่า “พาสาน” มาจาก “ผสาน”  ซึ่งสื่อความหมายว่าอาคารแห่งนี้เป็นที่ที่จะพาผู้คนให้เข้ามาผสานรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับวิถีชีวิตของชาวต้นแม่น้ำเจ้าพระยา  ลักษณะโครงสร้างเป็นสะพานโค้งขนาดใหญ่คล้ายการรวมตัวกันของแม่น้ำหลักจาก 4 สาย ได้แก่ ปิง วัง ยม น่าน มาบรรจบกันเป็นสองสายและรวมเป็นหนึ่งเดียว อาคารถูกออกแบบและก่อสร้างขึ้นให้สามารถคงอยู่ในสภาพภูมิประเทศ ที่จะมีน้ำขึ้นสูงในช่วงฤดูน้ำหลาก เป็นลักษณะของอาคารที่ยกโค้งพ้นน้ำ   ภายในเป็นวัสดุไม้ในการตกแต่งพื้นและผนังภายใน โดยความสวยงามหนึ่งที่เห็นได้ชัดจากระยะไกล นอกจากรูปทรงที่โค้งโฉบเฉี่ยวน่าสนใจแล้ว ยังมีการนำวัสดุแผ่นโลหะสีทองแดง ผิวแวววาวมากรุเป็นหลังคาโค้งด้านบนและด้านข้างของตัวอาคาร ทำให้อาคารมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น บริเวณภายในอาคารยังมีการจัดแสดงนิทรรศการกิจกรรมแสง สี เสียง เพื่อเป็นการถ่ายทอดถึงวิถีชีวิตผู้คนกับสายน้ำ ประวัติความเป็นมาของพาสานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และมีลานประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมอีกด้วย พาสานถือป็นจุดชมวิวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่มีเอกลักษณ์และไม่เหมือนใคร มีความแปลกใหม่และน่าสนใจเป็นอย่างมาก นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวถ่ายรูป หรือไปเพื่อชมพระอาทิตย์ตก สัมผัสความงดงามของต้นน้ำเจ้าพระยา  นอกจากนี้เราก็สามารถที่จะไปชมวิถีชีวิตของคนริมนํ้าแห่งปากนํ้าโพ หรือสถานที่ที่ติดริมฝั่งแม่น้ำทั้งสองฝั่งเพื่อชมความสวยงามได้เช่นกัน สิ่งที่ควรรู้ก่อนเที่ยว : พาสาน นครสวรรค์ เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง  20.00 น. &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%99%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%aa%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b9%8c-%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7-%e0%b8%9e%e0%b8%b2%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%99-%e0%b9%81%e0%b8%a5/">Continued</a>