สำหรับคอราเมงขอแนะนำ พิพิธภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮาม่า (Shin-Yokohama Ramen Museum) ธีมพาร์คที่รวมร้านราเมงชื่อดัง 8 ร้านตั้งแต่ฮอกไกโดไปจนถึงคิวชู มาที่เดียวก็ได้ชิมราเมงตั้งแต่เหนือจรดใต้ เราขอมาแนะนำร้านดัง สิ่งน่าสนใจและวิธีเดินทางไปพิพิธภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮาม่าค่ะ อาหารที่ทุกคนตั้งใจมาลองให้ได้ที่ญี่ปุ่นคืออะไร ถ้าคำตอบคือราเมงล่ะก็เราขอแนะนำให้ไปที่พิพิธภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮาม่า (Shin-Yokohama Ramen Museum) ค่ะ พิพิธภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮาม่า มีชื่อย่อสั้นๆ ว่า &#8220;ราฮาคุ&#8221; (มาจากชื่อภาษาญี่ปุ่น ราเมงฮาคุบุตสึคัง) ถึงจะใช้ชื่อว่าพิพิธภัณฑ์แต่จริงๆ แล้วที่นี่เป็นธีมพาร์คที่รวบรวมร้านราเมงจากทั่วญี่ปุ่นตั้งแต่ฮอกไกโดทางเหนือจนถึงคิวชูทางใต้มาไว้ในที่เดียว ไปดูบรรยากาศด้านในพร้อมร้านที่เราอยากแนะนำกันค่ะ ในพิพิธภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮาม่าไม่ได้มีแค่ราเมงแสนอร่อยอย่างเดียว ยังมีไฮไลท์อื่นๆ ที่น่าสนใจอีก เช่น การตกแต่งภายในแบบย้อนยุคที่จำลองญี่ปุ่นยุคโชวะ ร้านขายขนมดากาชิ และพื้นที่สาธารณะที่มีแสดงการเล่นกลและหุ่นละครกระดาษด้วย หลังจากทานราเมงเสร็จก็แวะมาเดินเล่นถ่ายรูป หาซื้อของฝากเป็นที่ระลึกกันได้นะคะ ด้านในจำลองเป็นบ้านเมืองญี่ปุ่นในช่วงเวลาโพล้เพล้ของปี 1958 ปีที่ ชิคเก้นราเมง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก หนึ่งในสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นภาคภูมิใจมาก เพดานทำเป็นสีของท้องฟ้าตอนพระอาทิตย์ตก และยังมีของตกแต่งอื่นๆ ที่ช่วยสร้างบรรยากาศแบบวันวาน เช่น ป้ายโรงภาพยนตร์ ตรอกซอยเล็กๆ และเซ็นโต (โรงอาบน้ำสาธารณะ) เพียงแค่เดินเล่นในพิพิธภัณฑ์ก็รู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตแล้ว โปสเตอร์และป้ายต่างๆ ที่อยู่ในเมือง ทำดีมากเพราะเก็บไปจนถึงรายละเอียด เหมาะแก่การถ่ายรูปอัพลงโซเชียลสุดๆ! สิ่งที่ควรรู้ก่อนไป &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b9%82%e0%b8%a2%e0%b9%82%e0%b8%81%e0%b8%ae%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%b2-%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%8d%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%9b%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%99/">Continued</a>

สวนอุเอโนะ (Ueno Park)&nbsp;หรือชื่อเต็ม&nbsp;อุเอโนะอนชิ (Ueno Onshi Koen) คือสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ในเขตไทโต โตเกียว โดยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของญี่ปุ่นโดยรัฐบาลในปี 1873 ภายในพื้นที่กว้างประมาณ 530,000 ตารางเมตรเป็นที่ตั้งของสวนสัตว์อุเอโนะ&nbsp;สระน้ำชิโนบาซุ พิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตกแห่งชาติ และพิพิธภัณฑ์ชิตะมาจิให้เพลิดเพลินกันอย่างจุใจ สวนอุเอโนะเป็นจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่ยุคเอโดะ&nbsp;มีซากุระกว่า 40 สายพันธุ์รวม 1,200 ต้น ช่วงปลายเดือนมีนาคม &#8211; ต้นเดือนเมษายน นับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการชมซากุระในโตเกียว สิ่งที่ควรู้ : สวนอุเอโนะ Ueno Park วิธีการเดินทางไปสวนอุเอโนะ สถานีรถไฟที่ไปสวนอุเอโนะสะดวกที่สุดคือสถานีอุเอโนะ (Ueno) ของ JR และสถานีเคเซอุเอโนะ&nbsp;(Keisei Ueno) ของรถไฟเคเซ (Keisei) สถานีอุเอโนะ (Ueno) ของ JR ใช้ทางออก Park Exit หรือ Shinobazu Exit ข้ามถนนไปจะเป็นสวนอุเอโนะ สถานีเคเซอุเอโนะ (Keisei Ueno) ของรถไฟเคเซ (Keisei) ใช้ทางออกหลัก &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%aa%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%b8%e0%b9%80%e0%b8%ad%e0%b9%82%e0%b8%99%e0%b8%b0-ueno-%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%8d%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%9b%e0%b8%b8%e0%b9%88/">Continued</a>

ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน หรือ USJ (Universal Studios Japan) สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในโอซาก้าแห่งนี้เป็นสวนสนุกที่มีคนมาเที่ยวมากที่สุดเป็นอันดับสองของญี่ปุ่นรองจากโตเกียวดิสนีย์แลนด์ และเป็นหนึ่งในธีมพาร์ก แอนด์ รีสอร์ต ของยูนิเวอร์แซลซึ่งมีเพียง 4 แห่งในโลก แถมยังเป็นยูนิเวอร์แซลธีมพาร์กแห่งแรกในเอเชียอีกด้วย ดินแดนแห่งเวทมนต์รอคุณอยู่ที่ Universal Studios Japan! ไปถึงไปโอซาก้าทั้งที ถ้าไม่ได้แวะเที่ยวยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ เจแปนก็เหมือนไปไม่ถึงที่นะ สวนสนุกยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ เจแปนนี่ฮิตสุด ๆ ทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่นเองก็ชอบไปกันมากๆ แบ่งออกเป็น 9 โซน ตามธีมภาพยนตร์สดฮิตของฮอลลีวูดและหนังดังจากค่ายยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ The Wizarding World of Harry Potter : ฮ็อตฮิตเป็นที่นิยมของคนที่มาเที่ยวสวนสนุกที่นี่ ไม่ว่าใครที่เดินทางมาท่องเที่ยวจะต้องมากดบัตรคิวเพื่อเข้าไปยังโซนแฮร์รี่ บอกเลยว่าเหมือนเราหลุดมาอยู่อีกโลกนึงที่เหมือนเรามาอยู่ในหนังจริงๆ และบรรยากาศได้มากกกก หยิบไม้กายสิทธิ์เข้าไปเรียนวิธีเสกคาถาให้ทั่วทั้งปราสาทฮอกวอตส์กันเลยค่ะทุกคนนนนน จะซื้อไม้กายสิทธิ์ไปเรียนทั้งที ก็ต้องไปซื้อที่ร้านโอลิแวนเดอร์สิคะ เมื่อใช้ไม้กายสิทธ์เป็นแล้ว อย่าลืมไปลองวิชากับพ่อมดแม่มดตัวจริงที่หมู่บ้านฮ็อกส์มีด!!!! เตรียมตัวพร้อม ซื้อของส่วนตัวครบแล้ว เราจะพาไปนั่งรถไฟที่สถานีรถไฟคิงส์ครอส ชานชาลา 9 3/4 ด้วยกันนน!!!&nbsp; ซึ่งเป็นทางเชื่อมต่อระหว่างโลกเวทมนต์กับโลกมักเกิ้ล &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%95%e0%b8%b0%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%a2%e0%b8%aa%e0%b8%99%e0%b8%b8%e0%b8%81-universal-studio-japan-%e0%b8%97%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%82%e0%b8%a5%e0%b8%81-harry-potter/">Continued</a>

หากคุณเป็นนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ ต้องห้ามพลาดกับ 2 จุดไฮไลท์แห่งนี้ นั่นก็คือ ป่าไผ่อาราชิยาม่า และสะพานโทเก็ตสึเคียว เป็นที่นิยมสำหรับชาวญี่ปุ่นเเละนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติหลายๆ คนที่จะได้สัมผัสกับอากาศที่บริสุทธิ์ บรรยากาศที่ร่มรื่น เเละวิวทิวทัศน์อันสวยงามท่ามกลางธรรมชาติ ทั้งยังมีกิจกรรมที่เป็นไฮไลท์สำหรับผู้ที่มาเยี่ยมชมป่าไผ่เเห่งนี้ได้ทำอีกมากมาย ไปชมกันเลยย~~ สะพานโทเก็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge)&nbsp;หรือที่หลายๆคนรู้จักกันในชื่อ &#8220;Moon Crossing Bridge&#8221; เป็นสะพานที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากๆ สร้างขึ้นมาตั้งแต่ยุคสมัยเฮอัน เพื่อใช้สำหรับข้ามแม่น้ำโฮซุ เป็นสะพานไม้ที่สร้างสรรค์ทัศนียภาพของอาราชิยาม่าได้อย่างสวยงาม วิวด้านหลังสะพานโทเก็ตสึเคียว&nbsp;จะล้อมรอบไปด้วยต้นเมเปิ้ลที่กำลังเปลี่ยนสีเป็นวิวธรรมชาติที่สวยงามมากๆ อีกฝั่งจะเป็นช่องแคบเล็กๆ และท่าเรือชมอาราชิยาม่า สามารถนั่งเรือชมวิว2ฝั่งของแม่น้ำโฮสุ ดื่มด่ำกับบรรยากาศอันร่มรื่น นอกจากนั่งเรือแล้วเราสามารถเยี่ยมชมป่าไผ่อาราชิยาม่าแห่งนี้ได้หลากหลายวิธีเลย ไม่ว่าจะเป็น การเดิน การปั่นจักรยาน หรือใช้บริการรถลากโบราณ ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมไว้ให้บริการ สามารถใส่ชุดกิโมโนไปถ่ายรูปกับใบไม้เปลี่ยนสีและป่าไผ่อาราชิยาม่าได้ด้วยค่ะ นอกจากกการเดินชมป่าไผ่เเล้ว ที่นี่ยังมีศาลเจ้าที่โด่งดังในเรื่องของการขอคู่ครองอีกด้วย รับรองว่าทุกคนที่มาจะไม่ผิดหวัง ถูกใจทั้งสายธรรมชาติ สายถ่ายรูป อย่างเเน่นอน นับได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ไม่ควรพลาดกันเลยทีเดียว สิ่งที่ควรรู้ก่อนเที่ยว : ป่าไผ่อาราชิยาม่า &amp; สะพานโทเก็ตสึเคียว : 2 จุดไฮไลท์ ใบไม้เปลี่ยนสีที่ต้องมาเยือน ป่าไผ่อาราชิยาม่า เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%9b%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b9%84%e0%b8%9c%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%8a%e0%b8%b4%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%b2-%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a7/">Continued</a>

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้ นู๋JUB จะพาเพื่อนๆไปเที่ยวที่วัดทอง (Golden Pavilion) หรือ วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple) ตั้งอยู่ที่เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เป็นวัดที่เก่าแก่ในเมืองเกียวโต ใครที่มาเที่ยวที่เกียวโตแล้วไม่ได้มาที่วัดคินคะคุจิ นู๋JUB ถือว่ามาไม่ถึงเกียวโต ตามไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ วัดคินคะคุจิสร้างขึ้นปี 1397 เคยได้รับความเสียหายจากสงครามหลายครั้ง และในปี 1950 ได้ถูกพระรูปหนึ่งรอบวางเพลิง หลังเหตุการณ์นี้ทำให้วัดได้รับการปรับปรุงและบูรณะอย่างต่อเนื่องมีการหุ้มทองทั้งหลัง วัดคินคะคุจิยังได้รับการขึ้นเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ปี1994 ศาลาทองวัดคินคะคุจิ มี 3 ชั้น และในแต่ละชั้นก็ใช้การออกแบบที่แตกต่างกัน ดังนี้ ชั้นที่ 1 :โฮซุยอิน (Hossui-in) (法水院) เป็นสไตล์ชินเดน-ซูคูรอแบบญี่ปุ่น มีระเบียงไม้ร้อมลอบ ส่วนนี้ใช้เป็นเป็นส่วนสำหรับรับแขกชั้นที่ 2 : โชฮอนโด (Cho’on-do) (潮音洞) เป็นสไตล์แบบบ้านซามูไร ภายในถูกตกแต่งด้วยภาพวาดของ คาโน่ มาซาโนบุ ใช้เป็นที่ประชุมชั้นที่ 3 : คูเคียวโช (Kukkyo-cho) (究竟頂) &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%84%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%84%e0%b8%b0%e0%b8%84%e0%b8%b8%e0%b8%88%e0%b8%b4-%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b9%82%e0%b8%95/">Continued</a>

ศาลเจ้าเทพอินาริ (伏見稲荷大社, Fushimi Inari Shrine) ที่คนไทยทั้งหลายชอบเรียกกันว่าศาลเจ้าแดงหรือศาลเจ้าจิ้งจอกเป็นศาลเจ้าชินโต (Shinto) นั่งเอง ที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต(Kyoto) มีชื่อเสียงโด่งดังจากประตูโทริอิ (Torii Gate) หรือเสาประตูสีแดงที่เรียงตัวกันข้างหลังศาลเจ้าจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริ ว่ากันว่าศาลเจ้าแห่งนี้มีความเก่าแก่มากถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนสร้างเมืองเกียวโตซะอีกนะคะ คาดกันว่าจะเป็นช่วงประมาณปีค.ศ. 794 หรือกว่าพันปีมาแล้ว นอกจากจะมีไฮไลท์อยู่ที่เสาประตูสีแดงแล้วนั้นตัวอาคารศาลเจ้าเองก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ที่ล้างมือด้านหน้าศาลเจ้า ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ต้องล้างมือ บ้วนปาก ก่อนเข้าศาลเจ้า ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 711 โดยแต่เดิมตัวศาลเจ้านั้นสร้างขึ้นบริเวณยอดเขาอินาริยามะ (Inariyama) และในปี ค.ศ. 816 ได้ทำการย้ายลงมาอยู่บริเวณเนินเขาซึ่งเป็นที่ตั้งในปัจจุบัน โดยศาลเจ้าแห่งนี้อยู่ภายใต้การอุปถัมภ์จากองค์พระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยเฮอัน หลังจากนั้นจึงมีการสร้างอาคารสำคัญหลายแห่งเพิ่มเติมเรื่อยมา “ศาลเจ้าอินาริ”คือศาลเจ้าที่ “เทพอินาริ”ซึ่งเป็นเทพแห่งพืชพันธุ์ธัญญาหารของญี่ปุ่นสถิตอยู่ ว่ากันว่าจะได้มีอํานาจ ตั้งแต่”Gokokuhoujou”(พืชพันธุ์งอกงาม) “Shoubaihanjou” (ค้าขายรุ่งเรือง) “Ansan”(คลอดบุตรปลอดภัย) “Manbyouheiyu”(โรคภัยหายป่วย) ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ และ “Goukakukigan”(สอบผ่าน) เรียกได้ว่าเป็นมิตรของพวกเราชาวบ้านคนธรรมดาเลยล่ะ รูปปั้นสุนัขจิ้งจอก ที่หน้าศาลเจ้า มีความเชื่อว่าเป็นผู้ส่งสารของเทพเจ้า ร้านขายเครื่องรางในศาลเจ้า คนญี่ปุ่นทั่วประเทศกว่า2ล้าน7แสนคนไปที่ศาลเจ้านี้ เพื่อขอพรในวันปีใหม่เป็นศาลเจ้าที่มีความเป็นมาเก่าแก่ยาวนาน ที่ไม่ใช่แค่ในคันไซแต่เป็นคนญี่ปุ่นทั่วประเทศให้ความเคารพนับถือ เส้นทางเดินของศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ จะเดินตามทางเสาโทริอิสีแดง &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%a8%e0%b8%b2%e0%b8%a5%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%9f%e0%b8%b9%e0%b8%8a%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%b4%e0%b8%ad%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%b4-%e0%b8%a8%e0%b8%b2%e0%b8%a5/">Continued</a>