วันนี้ นู๋JUB จะมารีวิวสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นการท่องเที่ยวเชิงเกษตร และยังเป็นสถานท่องเที่ยวที่มุมถ่ายรูปเก๋ๆหลายมุมอีกด้วย สถานที่ท่องเที่ยวที่ว่าก็คือ จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม จ.นครราชสีมา นั่นเอง จะเป็นยังไงบ้างตาม นู๋JUB ไปดูรีวิวกันเลยนะคะ จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม สร้างขึ้นในปี 2531 บนพื้นที่กว่า 600 ไร่&nbsp; อำเภอปักธงชัย จ.นครราชสีมา จากพื้นที่เพาะเลี้ยงและทอผ้าไหม และเปิดฟาร์มทัวร์ท่องเที่ยวเชิงเกษตร เริ่มกันที่หมู่บ้านอีสานและหมู่บ้านโคราช นักท่องเที่ยวจะได้ชมหลากหลายสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นอีสานที่ได้รวบรวมและสร้างขึ้นไว้มากที่สุด เช่น สิม หอไตร หอกลอง เป็นต้น รวมทั้ง “เรือนนางเผอะ” เรือนโคราชที่ได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2558 จากสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ต่อมาจะเป็นลานฟักทองและทุ่งดอกไม้หลากสี พร้อมชมความงามของ ทัศนียภาพรอบๆ ทุ่งคอสมอสที่บานสะพรั่งต้อนรับผู้ที่เข้ามาชม กับฟักทอง หลากหลายสายพันธุ์ รวมทั้งฟักทองยักษ์สีสันสดใสรูป ทรงแปลกตาโดยตรงจุดนี้จะมีทั้ง ทุ่งดอกทานตะวัน ทุ่งดอกไม้หลากสี นอกจากธรรมชาติที่สวยงามแล้วที่ จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม แห่งนี้ยังมีร้านอาหาร &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%88%e0%b8%b4%e0%b8%a1-%e0%b8%97%e0%b8%ad%e0%b8%a1%e0%b8%9b%e0%b9%8c%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b8%99-%e0%b8%9f%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%a1/">Continued</a>

จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นอีกหนึ่งจังหวัดของไทยที่มีวัดและตำนานเรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกเล่าต่อๆ กันมาอย่างยาวนาน จนทำให้กลายเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียง วันนี้นู๋JUBเลยจะเอาใจสายมูด้วยการพาไปไหว้ ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ ที่ขึ้นชื่อเรื่องขออะไรก็จะสมหวัง งั้นเราไปชมกันเลยดีกว่าค่า Let’s go วัดเจดีย์ หรือรู้จักกันในชื่อของ วัดไอ้ไข่ ตั้งอยู่ที่ ตำบลฉลอง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช “ไอ้ไข่” เป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชื่อดังของจังหวัด เชื่อกันว่าเป็นวิญญาณเด็กศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดเจดีย์(ลูกศิษย์วัดเจดีย์) ผู้คนสามารถมากราบไหว้ขอพรจากท่านได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ขอเรื่องโชคลาภ ขอให้ร่ำให้รวย ขอให้ค้าขายได้กำไรดีเงินทองไหลมาเทมา จนมีคนตั้งฉายาให้ว่า “ไอ้ไข่ ขอได้-ไหว้รับ” นอกจากนี้ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนมาไหว้ไอ้ไข่ต้องแวะเวียนมา นั่นคือ หน้ากากพรานบุญ หรือหน้ากากมโนราห์ วัดยางใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเครื่องรางวัตถุมงคลคู่ปักษ์ใต้ จุดสำคัญในการไหว้ขอพรจากพรานบุญ คือ ศาลาตาพราน ซึ่งเชื่อกันว่าจะทำให้เดินทางปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ และยังมีโชคลาภ เสน่ห์เมตตามหานิยม นอกจากนี้ที่วัดยางใหญ่ยังมีเทพทันใจให้ได้ไปสักการะบูชากันอีกด้วย จากนั้นก็แวะสักการะศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชเพื่อสิริมงคลแห่งการเดินทาง และที่สุดท้าย คือ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือ ที่ชาวนครเรียกว่า วัดพระธาตุ เป็นโบราณสถานสถานศักดิ์สิทธิ์ ศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งพระบรมธาตุเจดีย์นั้นเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ทำให้มีพุทธศาสนิกชนจากทั่วทุกมุมโลกแวะเวียนมาสักการะอย่างไม่ขาดสาย สิ่งที่ควรรู้ก่อน &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b9%84%e0%b8%ad%e0%b9%89%e0%b9%84%e0%b8%82%e0%b9%88-%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b9%8c/">Continued</a>

เชียงใหม่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไปกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ ที่สำคัญที่เที่ยวในเชียงใหม่มีเยอะมากๆ บอกเลยว่ามาเที่ยวกี่รอบ ก็เที่ยวไม่หมด วันนี้นู๋JUB จะมาแนะนำ 11 จุดเช็คอินยอดฮิต ที่ถ้ามาเชียงใหม่แล้วต้องห้ามพลาดเด็ดขาด จะมีที่ไหนบ้าง จะสวยขนาดไหน ตามไปดูกันเลยยย 1. วัดพระธาตุดอยสุเทพ หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารเป็นวัดที่มีความสำคัญมากที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่บนดอยสุเทพ ใกล้กับตัวเมืองเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวที่มาเชียงใหม่ครั้งแรกมักจะมาเที่ยวชม และไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคล ภายในวัดมีเจดีย์ทรงเชียงแสน ฐานสูงย่อมุมระฆังทรงแปดเหลี่ยมปิดด้วยทองจังโก 2 ชั้น อายุมากกว่า 500 ปี ทางขึ้นไปยังวัดต้องเดินผ่านบันไดนาคกว่า 300 ขึ้น หรือใช้บริการลิฟต์ขึ้น-ลงดอยสุเทพได้ เมื่อขึ้นไปถึงวัดแล้วจะต้องถอดรองเท้าไว้ จากนั้นถึงเข้าไปยังตัววัดด้านในได้ ด้านในของวัดมีเจดีย์ตั้งอยู่ตรงกลางเดินได้โดยรอบ นักท่องเที่ยวมักจะถ่ายรูป ที่บริเวณลานวัด เพราะว่าเป็นจุดชมวิว มองเห็นเมืองเชียงใหม่และสนามบินเชียงใหม่ได้อย่างชัดเจน พิกัด :&nbsp;https://is.gd/NbKzSa 2.อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ ถัดจากสวนสัตว์เชียงใหม่ บริเวณก่อนถึงน้ำตกห้วยแก้ว โดยครูบาศรีวิชัยนั้นได้ชื่อว่าเป็นนักบุญแห่งล้านนา เป็นผู้บุกเบิกเส้นทางขึ้นดอยสุเทพ&nbsp; โดยท่านเป็นผู้ริเริ่มชักชวนให้ประชาชนชาวเชียงใหม่ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างถนนจากเชิงดอยขึ้นไปสู่วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ ด้วยเหตุนี้ประชาชนชาวเชียงใหม่ หรือนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปไหว้วัดพระธาตุดอยสุเทพจึงมักแวะสักการะอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยก่อนนั่นเอง นอกจากนี้ผู้ที่สนใจตักบาตรตอนเช้าในเชียงใหม่ ที่นี่มีพระภิกษุเดินเป็นสายนับร้อยรูปสามารถมาที่เชิงดอยสุเทพ บริเวณลานครูบาศรีวิชัย และจะมีพ่อค้าแม่ขายนำอาหารและน้ำ มาจำหน่ายถึงที่ โดยผู้ที่จะทำบุญไม่ต้องเตรียมของสำหรับใส่บาตรเลย พิกัด &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b9%80%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b9%88-%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b9%80%e0%b8%8a/">Continued</a>

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับเวียดนามไม่ได้มีเพียงแค่ทัศนียภาพอันน่าทึ่งเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์มากมายที่น่าสนใจไม่แพ้กัน วันนี้นู๋JUBจะพาทุกคนไปเยี่ยมชมหมู่บ้านกั๊ตกั๊ต ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชาวม้งดำและยังเป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดาหมู่บ้านทั้งหมดของเมืองซาปา! หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village)เป็นชื่อเรียกของหมู่บ้านเผ่าม้งดำ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของฮานอย ประเทศเวียดนาม และห่างจากใจกลางเมืองซาปาจังหวัดลาวไก (Lao cai) เพียง 2.5 กิโลเมตร โดยเราจะเห็นวิถีชีวิตการเป็นอยู่ที่เรียบง่ายของชาวบ้านที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นการเกษตร ปลูกพืชผัก ที่เป็นอาชีพหลักของชนเผ่าม้งดำ และการเลี้ยงสัตว์ กับทิวทัศน์ของผืนนาขั้นบันได สิ่งที่เป็นไฮไลท์หลักของเมืองซาปากันตลอดเทือกเขา นอกจากนี้ยังมีผ้าทอสีสันสดใสในรูปแบบต่าง ๆ ให้คุณได้เลือกซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึก รวมถึงผลิตภัณฑ์งานฝีมืออื่น ๆ อีกมากมาย โดยการนำสินค้าไปขายที่ลานกลางเมือง ในเมืองซาปา ลักษณะคล้ายกับตลาดโต้รุ่งของบ้านเรา ซึ่งในยามค่ำคืนนั้นจะครึกครื้นมากเป็นพิเศษ สิ่งที่ควรรู้ก่อน : เที่ยวเวียดนามเหนือ : หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต Cat Cat Village ที่นี่มีแมวไหม? ในการเข้าชมหมู่บ้านกั๊ตกั๊ต ไม่สามารถเข้าไปฟรีๆได้แล้ว นักท่องเที่ยวต้องซื้อตั๋วเพื่อเข้าไปสำรวจหมู่บ้าน ผู้ใหญ่: 70,000 ดอง/คน เด็ก: 30,000 ดอง/คน เวลาเปิด-ปิด 6.00 น. &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%b9%e0%b9%88%e0%b8%9a%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b9%8a%e0%b8%95%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b9%8a%e0%b8%95-%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%94%e0%b8%99/">Continued</a>

สวัสดีค่ะ วันนี้นู๋JUBจะมาพาทุกคนไปกันที่ &#8220;ซาปา&#8221; เมืองในหุบเขาทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม สถานที่ที่ใครๆ ก็อยากไปเยือน เนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นทำให้เมืองแห่งนี้ปกคลุมไปด้วยม่านหมอก แต่ถึงอย่างนั้นก็มิอาจลดทอนความงดงามและมีเสน่ห์ของเมืองซาปา เมืองเล็กๆ สุดโรแมนติกแห่งนี้ไปได้ ซาปา ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของประเทศเวียดนาม ใกล้กับชายแดนจีน ห่างจากกรุงฮานอย ประมาณ 350 กิโลเมตร อยู่ในเขตจังหวัดลาวไก สูงจากระดับน้ำทะเล 1,650 เมตร เราสามารถเดินทางมายังซาปาได้ทั้งทางรถบัสและรถไฟ แต่ที่ได้รับความนิยมและสะดวกสบายที่สุดเห็นจะเป็นการใช้บริการรถไฟตู้นอน สามารถหาซื้อตั๋วรถไฟได้ตามโรงแรมหรือบริษัทที่เป็นตัวแทนจำหน่าย รถไฟจะออกจากฮานอยช่วงหัวค่ำ และมาถึงจังหวัดลาวไกตอนเช้า จากลาวไกก็ต้องต่อรถตู้เพื่อเดินทางไปซาปาอีกราวๆ 1 ชั่วโมง &nbsp;ในอดีตนั้นซาปาคือเมืองตากอากาศของเจ้านายชั้นสูงชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาปกครองเวียดนามในยุคอาณานิคม ซึ่งทุกวันนี้เรายังคงได้เห็นร่องรอยของเจ้าอาณานิคมที่ทิ้งไว้ ทั้งสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนและการวางผังเมืองแบบเฟรนช์โคโลเนียล บริเวณ ณ ลานกว้างกลางเมือง ด้านหนึ่งเป็นโบสถ์คาทอลิก ซึ่งในเช้าวันอาทิตย์จะได้เห็นภาพชาวเขาเผ่าต่างๆ แต่งตัวตามแบบชนเผ่าพร้อมใจกันมาร่วมพิธีในโบสถ์อย่างแน่นขนัด อีกด้านหนึ่งของลานกลางเมืองเป็นโซนขายอาหารเหมือนตลาดโต้รุ่ง ซึ่งในยามค่ำคืนจะครึกครื้นมากเป็นพิเศษ ยิ่งในช่วงอากาศหนาวๆ ได้นั่งกินอาหารประเภทปิ้งย่างซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ยิ่งได้บรรยากาศ ที่ลานกว้างแห่งนี้เป็นเสมือนศูนย์กลางกิจกรรมของเมือง ความมีชีวิตชีวาเริ่มขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ ในขณะที่สายหมอกยังปกคลุมอยู่ ชาวเขาเริ่มนำแผงสินค้ามาตั้ง ส่วนใหญ่เป็นสินค้าหัตถกรรม อาทิ ผ้าทอ และเครื่องประดับ ที่ซาปามีอากาศหนาวเย็นตลอดปี ทำให้สามารถเพาะปลูกพืชผักผลไม้เมืองหนาวได้ดี ยิ่งช่วงฤดูหนาวบางปีที่หนาวจัดที่นี่จะถูกปกคลุมด้วยหิมะ สร้างภาพงามที่หลายคนอยากมาสัมผัสด้วยตัวเอง เมื่อมีการขยายตัวด้านการท่องเที่ยว &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%8b%e0%b8%b2%e0%b8%9b%e0%b8%b2-%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%94%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%b7%e0%b8%ad/">Continued</a>

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้นู๋JUBจะมาพาทุกคนไปกันที่ ทะเลสาบคืนดาบ จุดนัดพบยอดนิยมในฮานอยประเทศเวียดนาม และเป็นที่ตั้งของวัดวาอารามที่งดงามที่สุดของเมือง นอกกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่ใช้หลีกหนีจากผู้คนพลุกพล่านในเมืองและอากาศร้อนได้เป็นอย่างดี ตามนู๋JUBไปชมความงดงามของทะเลสาบคืนดาบกันเลยดีกว่าค่ะ ทะเลสาบคืนดาบ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ทะเลสาบฮวาเกี๋ยม (Hoan Kiem) เป็นทะเลสาบน้ำจืดและมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงตั้งอยู่ใจกลางเมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม อยู่ในพื้นที่ที่เป็นเขตเมืองเก่า นอกจากนั้นทะเลสาบคืนดาบแห่งนี้ยังมีตำนานเล่าขานกันถึงสถานที่แห่งนี้เป็นตำนานการสร้างชาติเวียดนามว่า ในศตวรรษที่ 15 จักรพรรดิ เล เหล่ย (Le Loi) ได้นับดาบวิเศษจากสวรรค์และใช้ดาบนั้นต่อสู้ขับไล่ชาวจีนแห่งราชวงศ์หมิงที่เข้ามารุกราน ในขณะที่พระองค์ประทับบนเรือ ณ ทะเลสาบอยู่นั้น ก็มีตะพาบยักษ์ตัวหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำและบอกให้พระองค์ส่งดาบนั้นกลับคืนแด่เจ้ามังกร ดาบนั้นก็ได้พุ่งออกมาจากฝักดาบเข้าไปในปากของตะพาบก่อนที่จะหายกลับลงไปสู่ใต้ผิวน้ำ อันเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบคืนดาบ กลางทะเลสาบมีสะพานสีแดงสดชื่อว่า สะพานเทฮุก เชื่อมไปยังวัดหง็อกเซินที่อยู่กลางน้ำ นอกจากนี้กลางทะเลสาบค่อนมาทางทิศใต้มีทาพรัว (Thap Rua) หรือหอคอยเต่า มีลักษณะคล้ายเจดีย์โบราณทรงสี่เหลี่ยม สร้างในศตวรรษที่ 18 เชื่อกันว่าหากใครได้เห็นเต่าในทะเลสาบคืนดาบจะมีโชค แต่ที่จริงแล้วเต่าในตำนานของทะเลสาบที่กล่าวถึงกันนั้นคือตะพาบน้ำ เป็นตะพาบใหญ่ชนิดหนึ่งที่ใกล้สูญพันธุ์ สิ่งที่ควรรู้ก่อน : หลงเสน่ห์เวียดนาม : ทะเลสาบคืนดาบ วิหารวรรณกรรม เปิดทุกวัน เวลา 08:00-18:00 น. บัตรค่าเข้าชมวัดหง็อกเซิน ราคาคนละ &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%97%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%9a%e0%b8%84%e0%b8%b7%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%b2%e0%b8%9a-%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%94%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%a1/">Continued</a>