&nbsp;หากคุณเป็นคนที่รักการท่องเที่ยวแบบผจญภัย และชอบเดินป่าชมธรรมชาติ รับรองว่าจะต้องถูกใจที่นี่อย่างแน่นอน นั่นก็คือ ถ้ำอะบุคุมะ (Abukuma) นั่นเองค่ะ เป็นถ้ำที่มีความยาวราว 600 เมตร มีหินงอกหินย้อยมากจนถูกกล่าวว่าเป็นอันดับหนึ่งในซีกโลกตะวันออกเลยทีเดียว ความยิ่งใหญ่และงดงามนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยพลังจากธรรมชาติ ซึ่งใช้เวลามากถึง 80 ล้านปี เมื่อมาถึงแล้ว เราจะเห็นผาสูงโดดเด่นมาก่อนเลย ทิวทัศน์รอบข้างนี้จริงๆ เกิดจากการที่แถวนี้เป็นเหมืองหินปูนค่ะ ถ้ำอาบุคุมะนั้นก็ถูกขุดพบระหว่างทำเหมืองหินปูนในปี 1969 นั่นเอง ด้านหน้าของถ้ำเป็นลานกว้างที่นั่งชมวิวได้สบายๆ มีร้านขายของฝากที่ชั้นสองเป็นร้านอาหารด้วย สามารถพักผ่อนในบริเวณนี้ได้ แต่ถ้าใครพร้อมแล้วก็ไปยังเคานเตอร์จำหน่ายตั๋วเข้าถ้ำกันเลยย โดยถ้ำอาบุคุมะมีราคาค่าเข้าดังต่อไปนี้ ผู้ใหญ่ (อายุ 16 ปีขึ้นไป 1,200 เยน เด็กมัธยมต้น (อายุ13 &#8211; 15 ปี) 800 เยน เด็กประถม (อายุ 7 &#8211; 12 ปี) 600 เยนคอร์สผจญภัย จ่ายเพิ่มเติม 200 เยน หากมากันเป็นหมู่คณะตั้งแต่ 15 คนจะมีส่วนลดสำหรับคอร์สมาตราฐานให้ด้วย เส้นทางภายในถ้ำตามรูปนั้น &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%96%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%9a%e0%b8%b8%e0%b8%84%e0%b8%b8%e0%b8%a1%e0%b8%b0-%e0%b8%9f%e0%b8%b8%e0%b8%81%e0%b8%b8%e0%b8%8a%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%b0/">Continued</a>

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์น้ำ รู้จักกับต้นกำเนิดของปลาแต่ละชนิด และชมระบบนิเวศในน่านน้ำและเรียนรู้ความเป็นอยู่ของปลาแต่ละสายพันธุ์ ซึ่งภายในมีแท็งก์น้ำขนาดใหญ่ที่แบ่งกระแสน้ำอุ่นและกระแสน้ำเย็น นอกจากนี้ยังมีปลาหายาก และแมวน้ำลวดลายแปลกใหม่ให้ได้ชมกันด้วย พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำฟูกุชิมะ (Aquamarine Fukushima) เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่หันหน้าออกสู่ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิค ภายในจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำนานาชนิตให้เห็นถึงระบบนิเวศในน่านน้ำของจังหวัดฟุกุชิมะและส่วนต่างๆในโลก ส่วนหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ถูกจำลองให้มีสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติของจังหวัดฟุกุชิมะ ตกแต่งให้มีแม่น้ำ ทะเลสาบ ภูเขา และแนวชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิค รวมทั้งสิ่งมีชีวิตพืชและสัตว์ คุณจะสามารถเห็นถึงวัฏจักรจังหวะของธรรมชาติเมื่อฤดูกาลเปลี่ยนแปลงไปได้ นิทรรศการน่านน้ำเขตร้อนของเอเชีย (Waters of Tropical Asia) เป็นการจำลองธรรมชาติริมน้ำของทวีเอเชียภายในเรือนกระจก และแท็งก์ Okhotsk Sea ที่แบ่งประเภทของสิ่งมีชีวิตต่างๆที่อาศัยอยู่ในทะเลโอค็อตสค์ ที่อยู่ทางทิศเหนือของฮอกไกโด ทางพิพิธภัณฑ์ได้สร้างระบบความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อมขึ้นมาใหม่ เพื่อมิให้ที่นี่เป็นเพียงแค่สถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ให้เด็กๆ และผู้สนใจสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับทะเล สัตว์น้ำ และระบบนิเวศวิทยาได้ด้วย &nbsp;นักท่องเที่ยวยังสามารถเรียนรู้สิ่งมีชีวิตในน้ำได้ด้วยการสัมผัสปลาดาว ชมแมวน้ำและตัววอลรัส(ลักษณะคล้ายสิงโตทะเลแต่ตัวใหญ่กว่า มีเขี้ยวยาว) เดินห่างออกไปจากพิพิธภัณฑ์ประมาณ 10 นาที เป็นที่ตั้งของตลาดอาหารทะเล Iwaki Rara Myu นักท่องเที่ยวจะได้ลิ้มรสอาหารทะเลสดสดจากร้านอาหาร หรือเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ทะเลที่น่าสนใจ จากตลาดเดินไปอีก 25 นาที จะพบกับอิวากิมารีนทาวเวอร์ ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กของสวนสาธารณะมิซากิ(Misaki Park) เป็นหอคอยชมวิวมหาสมุทรแปซิฟิคที่สวยงามนั่นเอง ภายในสวนสาธารณะมิซากิมีพื้นที่โล่งกว้างขวาง &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%9f%e0%b8%b8%e0%b8%81%e0%b8%b8%e0%b8%8a%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%b0-%e0%b8%ad%e0%b8%b4%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b4/">Continued</a>

นั่งรถไฟไปเที่ยวกับนู๋JUB ที่ โดโกะ ออนเซ็น (Dogo Onsen) กันค่ะ เป็น 1 ใน 3 ออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น มีประวัติยาวนานถึง 3,000 ปี และยังเป็นฉากของภาพยนตร์แอนิเมชันชื่อดัง Spirited Away ของสตูดิโอจิบลิอีกด้วยค่ะ การเดินทางมายัง โดโกะ ออนเซ็น นั้น สะดวกมากๆเลยค่ะ เพราะสามารถนั่งรถไฟมาลงที่สถานีโดโกะ ออนเซ็น บริเวณใกล้ๆกับโรงอาบน้ำได้เลย รถรางขบวนนี้มีชื่อว่าบ๊ตจัง (Botchan Train) เป็นรถรางสายสำคัญที่พลาดไม่ได้ หากมาเที่ยวเมืองมัตสึยามะ (Matsuyama) จังหวัดเอฮิเมะ เพราะบ๊ตจัง เป็นรถรางท่องเที่ยวที่จำลองมาจากรถจักรไอน้ำที่สามารถพาเราไปยังโดโกะ ออนเซ็น (Dogo Onsen) บริเวณสถานีโดโกะจะมีหอนาฬิกาไอน้ำตั้งอยู่ และตรงด้านข้างยังมีบ่อน้ำพุร้อนสำหรับแช่เท้าไว้ให้ผู้มาเยือนถิ่นนี้อีกด้วย ที่ด้านหน้าโดโกะ ออนเซ็น คือแหล่งซื้อของชื่อว่า &#8220;โดโก ไฮอิคารา โดริ&#8221; ซึ่งยาว 250 เมตร และเป็นที่ตั้งของร้านอาหารและร้านค้ากว่า 60 แห่ง&nbsp; มีบริการรถลากโบราณ และร้านขายของฝากที่ระลึกให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อกัน &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b9%82%e0%b8%94%e0%b9%82%e0%b8%81%e0%b8%b0-%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%8b%e0%b9%87%e0%b8%99-%e0%b9%80%e0%b8%ad%e0%b8%ae%e0%b8%b4%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%b0/">Continued</a>

วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) วัดที่มีประตูและโคมแดงขนาดยักษ์โดดเด่น เป็นจุดถ่ายรูปห้ามพลาดของคนที่มาเที่ยวย่านอาซากุสะของโตเกียว คนเลยเรียกกันจนติดปากว่าวัดอาซากุสะ เป็นสถานที่เที่ยวยอดนิยมที่ทุกคนรู้จักกันดี นู๋JUBจะมาแนะนำเส้นทางการเดินชมแบบเน้นๆ สำหรับคนที่อยากเก็บทุกกระเบียดนิ้วค่ะ วัดแห่งนี้ตามตำนานเล่าขานกันว่ามีสองพี่น้องชาวประมงได้หาปลาที่แม่น้ำสุมิดะเป็นปกติ แต่ทว่าเมื่อหว่านแหเพื่อหาปลานั้น สิ่งที่ได้กลับมากับแหคือรูปปั้นพระโพธิสัตว์ เทพเจ้าแห่งความเมตตา แม้ว่าทั้งสองจะพยายามเอารูปปั้นกลับคืนสู่แม่น้ำหลายครั้งหลายครา แต่รูปปั้นมักจะกลับมาหาพวกเขาเสมอ สองพี่น้องและชาวบ้านจึงเกิดความศรัทธาเลื่อมใส จึงได้ก่อตั้งวัดและอันเชิญรูปปั้นพระโพธิสัตว์มาประดิษฐานที่วัดแห่งนี้ เมื่อปี ค.ศ. 628 วัดอาซากุสะจึงถือว่าเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคคันโตของญี่ปุ่น คามินาริมง (Kaminarimon Gate) โคมไฟที่หนักถึง 700 กิโลกรัม สีแดงเด่นสะดุดตา เป็นสัญลักษณ์ที่ใครเห็นก็ต้องนึกถึงอาซากุสะทันที เป็นจุดเช็คอินที่ใครมาก็ต้องมาถ่ายรูปตรงนี้ก่อน ด้านใต้ของคารินาริมงจะเป็นลวดลายมังกรที่สวยสะดุดตามากค่ะ ผ่านซุ้มประตูโคมแดงยักษ์แล้วก็จะเจอกับถนนนากามิเสะ ซึ่งเป็นถนนสายช้อปปิ้งเพราะมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านขายของฝากตั้งอยู่มากมายตลอดสองข้างทางที่ทอดยาวกว่า 200 เมตรไปจนถึงด้านในของวัด&nbsp; เพื่อนๆ สามารถหาซื้อขนม ชุดยูกาตะ พัดญี่ปุ่น ร่ม พวงกุญแจ และของฝากต่างๆ ได้จากที่นี่ ขนมและอาหารที่โด่งดังของวัดอาซากุสะ ได้แก่ ดังโงะเคลือบผงคินาโกะ ข้าวพองเคลือบน้ำตาลอัดแท่ง ขนมไส้ถั่วแดง ซาลาเปาทอด มันหวานญี่ปุ่น เนื้อสับชุบแป้งทอด แต่ที่พลาดไม่ได้เลยยย!!!! &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%8b%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b8%e0%b8%8b%e0%b8%b0-%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b9%80%e0%b8%8b%e0%b9%87%e0%b8%99%e0%b9%82%e0%b8%8b%e0%b8%88%e0%b8%b4/">Continued</a>

ไดน่าแลนด์ เป็นลานสกีขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาไดนิจิ เมืองกุโจ ที่ไดน่าแลนด์นอกจากจะให้บริการด้านการเล่นสกีและกีฬาในช่วงฤดูหนาวแล้ว ยังมีอีเวนท์พิเศษที่จัดขึ้นเฉพาะช่วงอย่างงานอิลลูมิเนชั่นสวย ๆ อีกด้วย ถึงกิฟุจะเป็นจังหวัดที่อยู่ใจกลางประเทศญี่ปุ่นก็ตาม แต่ก็มีพื้นที่ที่เต็มไปด้วยภูเขามากมายพอเข้าสู่ฤดูหนาวตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมถึงปลายเดือนมีนาคมเป็นต้นไปเราก็สามารถเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมที่ลานสกีได้โดยเฉพาะที่เมือง “ไดน่าแลนด์” ที่ไดน่าแลนด์มีอุปกรณ์เล่นสกีให้เช่าเกือบทุกชนิดเพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้เล่นสกี ทั้งชุดสกี อุปกรณ์แผ่นสกี 2 แผ่น ไม้สต็อก 1 คู่ รองเท้าสกี แว่นตากันลม หมวกกันกระแทก เป็นต้น สามารถเดินทางมาด้วยตัวเปล่าแล้วมาเช่าอุปกรณ์ที่นี่ได้ ชินโฮทากะกระเช้าไฟฟ้า 2 ชั้น 1 เดียวของญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากๆ เราจะได้เห็นวิวเทือกเขาแอลป์ตอนเหนืออย่างงดงาม ในขณะที่กระเช้ากำลังแล่นอยู่บนหุบเขา ที่สำคัญที่นี่ยังสวยในทุกฤดูและเป็น 1 ในสถานที่ไฮไลท์ของกิฟุที่พลาดไม่ได้เลย สิ่งที่ควรรู้ก่อนเที่ยว : ไดน่าแลนด์ ลานสกีกุโจ : เล่นสกีบนลานหิมะ นั่งกระเช้าชมวิวเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือ ที่จังหวัดกิฟุ เวลาเปิด-ปิด &#8211; วันธรรมดา เวลา 8.00 &#8211; 16.30 น. &#8211; วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 5.00 &#8211; &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b9%84%e0%b8%94%e0%b8%99%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b9%8c-%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%9f%e0%b8%b8/">Continued</a>

สำหรับคอราเมงขอแนะนำ พิพิธภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮาม่า (Shin-Yokohama Ramen Museum) ธีมพาร์คที่รวมร้านราเมงชื่อดัง 8 ร้านตั้งแต่ฮอกไกโดไปจนถึงคิวชู มาที่เดียวก็ได้ชิมราเมงตั้งแต่เหนือจรดใต้ เราขอมาแนะนำร้านดัง สิ่งน่าสนใจและวิธีเดินทางไปพิพิธภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮาม่าค่ะ อาหารที่ทุกคนตั้งใจมาลองให้ได้ที่ญี่ปุ่นคืออะไร ถ้าคำตอบคือราเมงล่ะก็เราขอแนะนำให้ไปที่พิพิธภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮาม่า (Shin-Yokohama Ramen Museum) ค่ะ พิพิธภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮาม่า มีชื่อย่อสั้นๆ ว่า &#8220;ราฮาคุ&#8221; (มาจากชื่อภาษาญี่ปุ่น ราเมงฮาคุบุตสึคัง) ถึงจะใช้ชื่อว่าพิพิธภัณฑ์แต่จริงๆ แล้วที่นี่เป็นธีมพาร์คที่รวบรวมร้านราเมงจากทั่วญี่ปุ่นตั้งแต่ฮอกไกโดทางเหนือจนถึงคิวชูทางใต้มาไว้ในที่เดียว ไปดูบรรยากาศด้านในพร้อมร้านที่เราอยากแนะนำกันค่ะ ในพิพิธภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮาม่าไม่ได้มีแค่ราเมงแสนอร่อยอย่างเดียว ยังมีไฮไลท์อื่นๆ ที่น่าสนใจอีก เช่น การตกแต่งภายในแบบย้อนยุคที่จำลองญี่ปุ่นยุคโชวะ ร้านขายขนมดากาชิ และพื้นที่สาธารณะที่มีแสดงการเล่นกลและหุ่นละครกระดาษด้วย หลังจากทานราเมงเสร็จก็แวะมาเดินเล่นถ่ายรูป หาซื้อของฝากเป็นที่ระลึกกันได้นะคะ ด้านในจำลองเป็นบ้านเมืองญี่ปุ่นในช่วงเวลาโพล้เพล้ของปี 1958 ปีที่ ชิคเก้นราเมง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก หนึ่งในสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นภาคภูมิใจมาก เพดานทำเป็นสีของท้องฟ้าตอนพระอาทิตย์ตก และยังมีของตกแต่งอื่นๆ ที่ช่วยสร้างบรรยากาศแบบวันวาน เช่น ป้ายโรงภาพยนตร์ ตรอกซอยเล็กๆ และเซ็นโต (โรงอาบน้ำสาธารณะ) เพียงแค่เดินเล่นในพิพิธภัณฑ์ก็รู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตแล้ว โปสเตอร์และป้ายต่างๆ ที่อยู่ในเมือง ทำดีมากเพราะเก็บไปจนถึงรายละเอียด เหมาะแก่การถ่ายรูปอัพลงโซเชียลสุดๆ! สิ่งที่ควรรู้ก่อนไป &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b9%82%e0%b8%a2%e0%b9%82%e0%b8%81%e0%b8%ae%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%b2-%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%8d%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%9b%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%99/">Continued</a>