สวัสดีค่าาาา วันนี้นู๋JUBะพาทุก ๆ คนมาทำความรู้จักกันกับสะพานแว่นตามากาเนะบาชิ กันค่าาาา สะพานแว่นตามากาเนะบาชิ (Meganebashi Brigde) หรือที่รู้จักในอีกชื่อว่า “สะพานมากาเนะบาชิ” ตั้งอยู่ที่ในตัวเมืองนางาซากิในจังหวัดนางาซากิ โดยที่ชื่อของสะพานอย่างมากาเนะบาชิ (Meganebashi)นั้นสามารถแปลตรงๆตัวว่า กระจกนั่นเอง สะพานมากาเนะบาชิ แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1634 เพื่อที่จะไว้ใช้แม่น้ำนาคาจิมะ(Nakajima)ให้สะดวกมากยิ่งขึ้น แม้ต่อมาได้มีการสร้างสะพานหินเพื่อข้ามแม่น้ำนาคาจิมะเพิ่มขึ้นอีกหลายสะพาน หากสะพานแห่งนี้ก็ยังคงมีความสำคัญลำดับต้นๆจากความงดงามอันเลื่องชื่อจนติด1 ใน 3 สะพานหินที่ได้รับยกย่องว่าสวยที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยลักษณะที่เป็นรูปครึ่งวงกลม 2 วงติดกันเมื่อมองสะท้อนน้ำจะเห็นเป็นวงกลมเต็มวง 2 วง ซึ่งเป็นเรื่องน่าตื่นตาสำหรับคนในสมัยนั้น อีกทั้งยังมีรูปร่างคล้ายๆกับแว่นตาที่กลายมาเป็นชื่อเรียกที่คุ้นหูของคนส่วนมาก ไม่เพียงแค่ความโดดเด่นของตัวสะพานเท่านั้นนะคะ สะพานหินสะพานแรกของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย วันนี้นู๋JUBก็ได้พาทุกคนมาทำความรู้จักกับสะพานแว่นตามากาเนะบาชิเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่า ใครที่สนใจก็สามารถแวะไปเที่ยวชมได้นะค้าาา สิ่งที่ควรเรียนรู้ก่อนไปเที่ยว : สะพานแว่นตามากาเนะบาชิ : Meganebashi Brigde รายละเอียดเพิ่มเติม : พิกัด : https://bitly.ws/3d95G กดชมโปรแกรมญี่ปุ่น : Jubilee Travel : บริษัททัวร์ชั้นนำ หาทัวร์ทั้งตลาด หาทัวร์เที่ยว ในเว็บเดียว www.jubileetravel.co.th Content : Por Picture : Champ Naraksak ติดตาม จูบิลี่ แทรเวิล ได้ที่

สวัสดีค่าาาา วันนี้นู๋JUBะพาทุก ๆ คนมาทำความรู้จักกันกับพระใหญ่ อุชิคุ ไดบุสสึ แห่งอิบารากิ&nbsp;กันค่าาาา ตอนนี้เราก็อยู่กันที่ข้างหน้าทางเข้านะคะ ก่อนที่จะเข้าไปได้เราต้องบัตรเข้าชมก่อนนะค้าา พระใหญ่ อุชิคุ ไดบุสสึ เป็นพระพุทธรูปปางยืนที่สูงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น และเคยเป็นรูปปั้นที่สุงที่สุดในโลกที่ถูกบันทึกไว้โดยหนังสือบันทึกสถิติโลกกินเนสบุ๊คเมื่อปี ค.ศ. 1995 ความสูงถึง 120 เมตร ทำให้สามารถมองเห็นได้ตั้งแต่ใจกลางเมืองโตเกียวเลยทีเดียว ไฮไลท์ของที่นี่มิได้เป็นเพียงที่สักการะพระพุทธรูปองค์ใหญ่อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสามารถเข้าไปยังบริเวณภายในรูปปั้นและขึ้นไปยังจุดที่เป็นหอสังเกตุการ์ณในระดับความสูงที่ 85 เมตร ซึ่งจะอยู่ตรงส่วนของหน้าอกพระพุทธรูป เป็นจุดที่สามารถมองเห็น วิวในมุมด้านกว้างได้ ทั้งหมด ก่อนเข้าวัด อย่าลืมแวะล้างมือ ล้างปากเพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามร่างกายให้ออกไป ตามความเชื่อของศาสนาพุทธเรา ระหว่างทางเดินในวัด จะเห็นแผ่นป้ายอธิษฐานขอพรทำจากไม้ อันนี้เรียกว่า“เอะมะ” ในสมัยก่อน ด้านบนของเอมะจะเป็นรูปทรงภูเขาและนิยมวาดรูปม้าลงไป เพราะสมัยก่อนผู้คนเชื่อว่าม้าคือสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นยานพาหนะของเทพเจ้าและจะนำพาคำขอพรนั้นเป็นจริงได้ วันนี้นู๋JUBก็ได้พาทุกคนมาทำความรู้จักกับพระใหญ่ อุชิคุ ไดบุสสึ แห่งอิบารากิ&nbsp;เป็นที่เรียบร้อยแล้วค่า ใครที่สนใจก็สามารถแวะไปเที่ยวชมได้นะค้าาา สิ่งที่ควรเรียนรู้ก่อนไปเที่ยว&nbsp;:&nbsp;USHIKU DAIBUTSU : พระพุทธรูปอุชิคุ ไดบุทสึ รายละเอียดเพิ่มเติม&nbsp;: พิกัด&nbsp;:&nbsp;https://bitly.ws/3d93x กดชมโปรแกรมญี่ปุ่น&nbsp;:&nbsp;Jubilee Travel : บริษัททัวร์ชั้นนำ หาทัวร์ทั้งตลาด &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/ushiku-daibutsu-%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%9e%e0%b8%b8%e0%b8%97%e0%b8%98%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b8%9b%e0%b8%ad%e0%b8%b8%e0%b8%8a%e0%b8%b4%e0%b8%84%e0%b8%b8-%e0%b9%84%e0%b8%94%e0%b8%9a%e0%b8%b8/">Continued</a>

สวัสดีค่าาาา วันนี้นู๋JUBจะพาทุก ๆ คนมาทำความรู้จักกันกับศาลเจ้านัมบะยาซากะ โอซาก้ากันค่ะ เรียกได้ว่าสายมูทั้งหลายมาเที่ยวโอซาก้าคือพลาดที่นี่ไม่ได้ ศาลเจ้าที่โดดเด่นด้วยหัวสิงโตยักษ์และเลื่องลือในเรื่องของการมาขอพรในด้านธุรกิจ การเรียน และความรัก ที่ผู้คนแห่แหนมาสักการกันเพรียบเลยค่ะ เชื่อกันว่าศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่อยู่ของเทพพื้นเมืองของนัมบะ ซึ่งอาคารเดิมของศาลเจ้านั้นได้ถูกทำลายลงไปในช่วงสงคราม จนในปี ค.ศ.1974 ศาลเจ้าหลักหลังใหม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาอีกครั้งและอยู่คู่กับเมืองโอซาก้ามาจนถึงปัจจุบันนี้ สำหรับหัวสิงโตยักษ์ที่เราเห็นกันอยู่นี้สูงถึง 12 เมตร กว้าง 11 เมตร และลึกเข้าไปข้างในอีก 7 เมตร ซึ่งคนที่นี่เค้าเชื่อกันว่า ปากสิงโตขนาดใหญ่ที่กำลังอ้ากว้างอยู่นั้น สามารถกลืนกินวิญญาณชั่วร้ายและนำความโชคดีมาให้เราได้ทั้งเรื่องของการงาน ธุรกิจ และการเรียน ดังนั้นคนที่เค้ามาที่ศาลเจ้าแห่งนี้เลยนิยมมาเพื่อไหว้ขอพรในเรื่องเหล่านี้กันนั่นเอง ปกติพื้นที่ย่านนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นย่านแหล่งบันเทิง ที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และศูนย์รวมความบันเทิงนานาชนิด การที่ศาลเจ้านัมบะ ยาซากะตั้งอยู่ในย่านนี้ก็นับว่าเป็นสิ่งที่เต็มเติมระหว่างความเจริญและวัฒนธรรมความเชื่ออย่างลงตัว ศาลเจ้านัมบะ ยาซากะ แห่งนี้มีสถาปัตยกรรมที่สลับซับซ้อนตามลักษณะของวัดทางพุทธศาสนา เป็นที่ประดิษฐานของเทพผู้ปกครองของนัมบะที่มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก วันนี้นู๋JUBก็ได้พาทุกคนมาทำความรู้จักกับ ศาลเจ้านัมบะยาซากะ เป็นที่เรียบร้อยแล้วค่า เรียกได้ว่าสายมูทั้งหลายมาเที่ยวโอซาก้าคือพลาดที่นี่ไม่ได้ สิ่งที่ควรเรียนรู้ก่อนไปเที่ยว&nbsp;:&nbsp;ศาลเจ้านัมบะยาซากะ โอซาก้า รายละเอียดเพิ่มเติม&nbsp;: พิกัด&nbsp;: https://maps.app.goo.gl/rBCpiGY8tKa8YwE1A กดชมโปรแกรมญี่ปุ่น&nbsp;:&nbsp;Jubilee Travel : บริษัททัวร์ชั้นนำ หาทัวร์ทั้งตลาด หาทัวร์เที่ยว ในเว็บเดียว &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%a8%e0%b8%b2%e0%b8%a5%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%a1%e0%b8%9a%e0%b8%b0%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%8b%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b0-%e0%b9%82%e0%b8%ad%e0%b8%8b%e0%b8%b2/">Continued</a>

สวัสดีค่าาาา วันนี้นู๋JUBะพาทุก ๆ คนมาทำความรู้จักกันกับวัดคิโยมิสึกันค่าาาา น้ำตกโอโตวะ ส่วนของชื่อวัดคิโยมิซูเดระ แปลว่า น้ำใส ก็คือมาจากน้ำตกโอโตวะมาจากสายน้ำทั้ง 3 สายไหลลงมายังบ่อน้ำ ซึ่งจะอยู่ด้านล่างของศาลาวัด ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าหากใครที่ดื่มน้ำจากที่วัดแห่งนี้จะสมปรารถนาในสิ่งที่ตัวเองหวังไว้ ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ&nbsp;อาคารฮอนโดะนั่นเองค่ะ เป็นอาคารหลักของวัดคิโยมิสึเดระ ตั้งอยู่บนไหล่เขาโอโตวะ&nbsp;โครงสร้างอาคารทำมาจากไม้ทั้งหมด&nbsp;เสาที่ค้ำยันระเบียงของวัดเอาไว้ด้วยไม้ขนาดใหญ่ มีความสูงจากพื้นประมาณ 12 เมตร&nbsp;ช้วิธีเอาไม้เข้าลิ่มด้วยภูมิปัญญาของชาวญี่ปุ่นโบราณ ซึ่งไม่ได้ใช้ตะปูเเม้แต่ชิ้นเดียวเลยค่ะ ประตูนิโอะมอน เป็นซุ้มประตูทางเข้าหลักของวัดน้ำใส ที่เคยถูกไฟไหม้ไปในช่วงสมัยสงครามในศตววรรษที่ 14 และได้มีการสร้างขึ้นใหม่ในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 ในปี ค.ศ. 2003 ซึ่งประตูได้ถูกรื้อออกและมีการตกแต่งใหม่สวยงามมากขึ้น ลักษณะโครงสร้างของประตูมีโครงสร้าง 2 ชั้น ขนาด 5×10 เมตร และมีความสูงประมาณ 14 เมตรเลยค่ะ &nbsp;ประตูไซมอน ซึ่งจะอยู่ถัดจากประตูนิโอะมอนไปไม่ไกล แต่จะไม่ได้เปิดให้เดินผ่านเลยค่ะ ซุ้มประตูที่เห็นในปัจจุบันสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1631 เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินของวัดเลยค่ะ สวยงามมากๆ เจดีย์ซันจุโนโตะ &nbsp;เจดีย์สีแดง หรือเรียกว่า เจดีย์ซันจุโนโตะ เป็นเจดีย์ 3 ชั้นขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ภายในวัด&nbsp;เป็นหนึ่งในเจดีย์ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีความสูงถึง &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%84%e0%b8%b4%e0%b9%82%e0%b8%a2%e0%b8%a1%e0%b8%b4%e0%b8%aa%e0%b8%b6-%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b9%83%e0%b8%aa-%e0%b9%81%e0%b8%ab%e0%b9%88/">Continued</a>

สวัสดีค่าาาา วันนี้นู๋JUBจะพาทุก ๆ คนมาทำความรู้จักกันกับศาลเจ้าโทะโยะทะมะฮิเมะ อุเรชิโนะ ซากะ กันค่ะ ศาลเจ้าแห่งนี้มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่ามีสาวงามผู้หนึ่งนามว่า โทโยทะมะ ฮิเมะ ซึ่งเป็นเทพธิดามังกรที่มีผิวขาวราวหิมะ และมีปลาดุกเผือก นามะซุซามะ โดยครั้งหนึ่งในยุคสมัยนั้นมีการระบาดของโรคผิวหนังในหมู่บ้าน ปลาดุกจึงช่วยเหลือโดยให้ผู้ป่วยมาสัมผัสตัวเพื่อช่วยปัดเป่าโรคร้ายให้สุขภาพผิวกลับมาดีและสวยงามอีกครั้งค่ะ ทุกวันนี้ภายในบริเวณศาลเจ้า จึงยังมีรูปปั้นปลาดุกสีขาวตั้งอยู่เพื่อให้ผู้คนได้มารดน้ำชำระล้างสักการะ และลูบที่ผิวปลาดุก โดยเชื่อว่าจะส่งผลให้มีผิวที่ขาวผ่องใสยิ่งขึ้น ตรงนี้จะมีน้ำเพื่อที่ให้เราใช้สำหรับรดน้ำชำระล้างสักการะ และลูบที่ผิวปลาดุกค่ะ ที่นี่ชื่อว่าศาลเจ้าโทะโยะทะมะฮิเมะโดยศาลเจ้านั้นแม้จะมีขนาดเล็กแต่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน บรรยากาศภายในก็ดูมีมนต์ขลังมากเลยค่ะ ถึงจะเป็นศาลเจ้าเล็กๆ แต่ก็มีผู้คนมาสักการะตลอดเลยค่ะ วันนี้นู๋JUBก็ได้พาทุกคนมาทำความรู้จักกับ ศาลเจ้าโทะโยะทะมะฮิเมะ เป็นที่เรียบร้อยแล้วค่า ใครที่อยากผิวพรรณสวยงาม อย่าลืมมารดน้ำชำระล้างสักการะ และลูบที่ผิวปลาดุกกันนะคะ สิ่งที่ควรเรียนรู้ก่อนไปเที่ยว : ศาลเจ้าโทะโยะทะมะฮิเมะ อุเรชิโนะ ซากะ รายละเอียดเพิ่มเติม&nbsp;: พิกัด&nbsp;:&nbsp;https://maps.app.goo.gl/8WWbqT7hs9d2yEPh7 กดชมโปรแกรมญี่ปุ่น&nbsp;:&nbsp;Jubilee Travel : บริษัททัวร์ชั้นนำ หาทัวร์ทั้งตลาด หาทัวร์เที่ยว ในเว็บเดียว www.jubileetravel.co.th Content :&nbsp;Fairy Picture : Champ Naraksak ติดตาม&nbsp;จูบิลี่ แทรเวิล&nbsp;ได้ที่

สวัสดีค่าาาา วันนี้นู๋JUBะพาทุก ๆ คนมาทำความรู้จักกันกับศาลเจ้าโออาไรอิโซซากิ กันค่าาาา  สิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของโออะระอิ อิโซซาคิ จิงจะนั่นก็คือ รูปปั้นกบคอยเฝ้าประตูทางเข้าของศาลเจ้า ซึ่งเป็นการเล่นคำของภาษาญี่ปุ่น ได้แก่คำว่า &#8220;คะเอะรุ&#8221; หมายถึง &#8220;กบ&#8221; โดยพ้องเสียงกับคำว่า &#8220;เดินทางกลับอย่้างปลอดภัย&#8221; หรือ &#8220;ของที่หายกลับคืนมา&#8221; ดังนั้นกบจึงเป็นสัญลักษณ์ของโชคดี เสาโอโทริอิเรียกได้ว่าเป็นหน้าเป็นตาของศาลเจ้าโออาไรอิโซซากิแห่งนี้เลยก็ว่าได้ โดยเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “อิจิ โนะ โทริอิ” เดิมแล้วเคยเป็นเสาโทริอิไม้สไตล์จิมเม แต่เนื่องจากโดนกัดกร่อนจากคลื่นลมทะเล ทำให้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ในปี 1963 โดยในปัจจุบันกลายเป็นเสาโทริอิคอนกรีตเสริมเหล็กไปเรียบร้อยแล้วค่าาา ศาลเจ้าโออาไรอิโซซากิ เป็นที่ประดิษฐานเทพเจ้าโอมิทากะโนะมิโคโตะ (Omitaka &#8211; no &#8211;  mikoto) หรือที่เรียกกันว่า โอคุนินุชิโนะคามิ และ สุคุนะบิโคนะโนะมิโคโตะ เทพทั้งสององค์นี้เป็นผู้นำความอุดมสมบูรณ์และความมั่งคั่งให้กับประเทศญี่ปุ่น ทั้งทางด้านการเกษตร อุตสาหกรรมและการแพทย์ ซึ่งเชื่อกันว่าเคยรักษาผู้คนจากโรคที่รักษาได้ยาก จึงทำให้ผู้คนนับถือเทพทั้งสองว่าเป็น เทพแห่งการแพทย์ เทพแห่งการประทานพร และเทพแห่งความรัก มีจุดจำหน่ายของฝากและของที่ระลึกด้วยค่าา วันนี้นู๋JUBก็ได้พาทุกคนมาทำความรู้จักกับ ศาลเจ้าโออาไรอิโซซากิ เป็นที่เรียบร้อยแล้วค่า ใครที่สนใจก็สามารถแวะไปเที่ยวชมได้นะค้าาา สิ่งที่ควรเรียนรู้ก่อนไปเที่ยว : OARAI ISOSAKI SHRINE อิบารากิ &hellip; <a href="https://www.jubileetravel.co.th/travel-info/oarai-isosaki-shrine-%e0%b8%ad%e0%b8%b4%e0%b8%9a%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b4-%e0%b8%a8%e0%b8%b2%e0%b8%a5%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%97/">Continued</a>