Hotline (24 hours)

เที่ยวญี่ปุ่นบิน JAL Toyooka City, Hyogo Prefecture เที่ยวเมืองรอง ไม่ลองได้ไง!!!

สวัสดีค่า วันนี้นู๋JUBจะพาทุกคนบินลัดฟ้าไปเมืองโทโยโอกะกับ JAPAN AIRLINES กันค่ะ มาดูกันว่าจะมีที่เที่ยวไหนที่น่าสนใจกันบ้าง

อันดับแรกเราจะมา Check-in ที่เคาน์เตอร์ของสายการบิน JAPAN AIRLINES กันก่อนค่ะ

ไปที่เลานจ์ซากุระของ JAPAN AIRLINES ที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีเมนูให้เลือกเยอะ ข้าวแกงกะหรี่หมูก็มีนะ

อาหารของสายการบิน JAPAN AIRLINES พร้อมเครื่องดื่มไม่อั้น ไม่พอแค่นั้น ไวน์ เบียร์ ก็มีนะคะ

JAPAN AIRLINES มีอาหาร ขนมทานเล่น คัพเค้ก บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ชา กาแฟและเครื่องดื่มบริการไม่อั้น!!!

มีห้องแอร์เย็น ๆ ให้นั่งพักผ่อนก็ดี หรือจะนั่งทำงานก็ได้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้บริการ แถมปลั๊กไฟให้ใช้ด้วยนะ

ที่นั่งบนเครื่องบินจัดแบบ 2-4-2 พร้อมที่ชาร์จโทรศัพท์

ถึง Takeda Castle เจ้าของฉายา “Castle in the Sky” ที่ได้ชื่อเรียกนี้เพราะว่าฐานของปราสาทเหมือนลอยอยู่เหนือท้องฟ้า และยังถูกขนานนามว่าเป็น Machu Pichu ของญี่ปุ่น

บัตรทางขึ้น Takeda Castle ผู้ใหญ่และเด็กมัธยมปลายขึ้นไป 500 เยน ฟรีค่าเข้าสำหรับเด็กมัธยมต้นและเด็กเล็ก

หลังจากใจฟูกับบรรยากาศที่ทาเคดะไปแล้ว จากนั้นเราจะไปต่อกันที่ย่านเมืองเก่า Kinosaki Onsen เมืองนี้เต็มไปด้วยผู้คน แต่อย่าเพิ่งคิดว่าจะวุ่นวายแออัดนะคะ ถึงคนจะเยอะแต่ระแวกนั้นสงบมากเลยค่ะ แถมบรรยากาศกับสภาพแวดล้อมรอบข้างก็สวยงามมาก เหมาะกับการไปเดินเล่นถ่ายรูปสุด ๆ

ต่อกันที่ Eirakukan Kabuki Theater โรงละครคาบูกิเก่าแก่ 123 ปี ที่นี่มีประวัติยาวนานมาก สร้างตอนปี 1901 ซึ่งเป็นโรงละครที่เก่าที่สุดในภูมิภาคคันไซ

ความเท่ของโรงละครนี้ก็คือ เมื่อเดินเข้ามาด้านในแล้วเราจะเห็นป้ายประกาศเป็นอักษรคันจิ ที่เป็นชื่อนักแสดงนำ ส่วนด้านบนของป้ายจะทำเป็นรูปทรงหลังคา แม้ว่าจะผ่านมาเป็นเวลานาน เคยต้องปิดตัวไปเพราะเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เข้ามา แต่ปัจจุบันก็กลับมาเปิดให้ชมเพื่อเข้าศึกษา และยังมีงานแสดงจากนักแสดงคาบูกิตัวจริง ขอกระซิบว่ามีปีละ 1 สัปดาห์เท่านั้น!!!

หอนาฬิกาสีดำคลาสสิก มีชื่อว่า “Shinkorou” จุดนี้ถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมือง Izushi Town เลยล่ะค่ะ เพราะหอนาฬิกาสุดเท่นี้ตั้งเด่นเป็นสง่า ใครผ่านไปผ่านมาก็ต้องแวะถ่ายรูปกันทั้งนั้น เท่สุด ๆ

ถ่ายออกมาแล้วเท่มากกกก มาแล้วไม่ถ่ายภาพถือว่าพลาดมากเลยนะคะ

นอกจากนี้สถานที่สำคัญที่ห้ามพลาดคงหนีไม่พ้น ศาลเจ้าอินาริ (Inari Jinja) มีชื่อเต็มว่า อินาริไดเมียวจินตั้งอยู่บนปราสาทอิซุชิทางเดินขึ้นจะต้องเดินผ่านเสาแดงโทริอิที่ตั้งทอดยาวไปยังปราสาทนั่นเองค่ะ

ก่อนจะมูฟไปสถานที่ต่อไป เราได้เก็บภาพบริเวณปราสาททาเคดะก่อนหน้านี้มาฝากกันค่ะ แม้ตัวปราสาทจะถูกทำลายไปแล้ว แต่กำแพงหินของปราสาทนั้นได้รับการบูรณะดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดี ซากปราสาทประกอบด้วยหอคอยของปราสาทและพื้นที่ปีกต่าง ๆ อีกมากมายเลยล่ะค่า

สามารถวิวของเมือง Izushi Town ได้จากจุดนี้ค่ะ

พักผ่อนกันที่ Toyooka Green Hotel Morris เหมาะแก่การเข้าพักเพื่อเที่ยวชมโทโยโอกะได้อย่างเต็มที่ ด้วยทำเลที่สะดวกสบาย เดินทางง่าย

ออกจากโรงแรมไปต่อกันที่ Hyogo Park of the Oriental White Stork สวนอนุรักษ์นกกระสาขาวเฮียวโกะ

นกกระสาขาว หรือ โคโนะโทริ ใครชอบเที่ยวสายธรรมชาติหรือสายส่องสัตว์โลกน่ารัก อย่าพลาดศูนย์อนุรักษ์พันธุ์นกกระสาเฮียวโกะเด็ดขาด!!!

หลังจากนั้นเราจะไปต่อกันที่ Genbudo Cave ถ้ำเก็นบุโด เป็นถ้ำที่เกิดจากการฟอร์มตัวของหินภูเขาไฟที่เย็นตัวลงจากการปะทุของภูเขาไฟเมื่อ 1.6 ล้านปีก่อน

สถานีรถไฟ Amarube ฉายาสถานีลอยฟ้า (Sora no Eki) อายุนับร้อยป

โดยสถานีนี้จะตั้งอยู่บนสะพาน เวลาจะขึ้นไปใช้บริการต้องขึ้นลิฟต์ใสบนหอคอยอะมะรุเบะคริสตัล (Amarube Crystal Tower) ขึ้นไปยังชานชาลาที่อยู่สูงถึง 47 เมตร

มาอยู่กันที่ Kinosaki Ropeway สถานีขึ้นกระเช้าคิโนะซากิ

สามารถใช้บริการเพื่อขึ้นไปยังภูเขาไดชิ โดยระหว่างทางจะแวะจอดที่ทางเข้า วัดออนเซ็นจิ ด้วย

เนื่องจากคิโนะซากิออนเซ็นมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มาก หากนั่งกระเช้าคิโนะซากิในฤดูกาลที่แตกต่างกันก็จะได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศที่ต่างกัน

มองเห็นหมู่บ้านคิโนะซากิออนเซ็นจากมุมสูง ข้างหน้าเป็นวิวทะเลสวย ๆ ซึ่งเป็นวิวที่ได้รับรางวัล Michelin Green Guide Japan ด้วยล่ะค่า!!!

คืนที่สองเราจะพักกันที่ Nishimuraya Hotel Shogetsutei โรงแรมระดับ 5 ดาว

ห้องนอนภายในโรงแรม ด้านในอากาศปลอดโปร่ง สีสันก็สบายตาสุด ๆ

เสิร์ฟอาหารแบบไคเซกิ

วันที่สาม เราจะมาอยู่กันที่ Kinosaki Onsen เมืองแห่งออนเซ็น 7 บ่อ จะเป็นน้ำแร่ที่มีธาตุโซเดียม แคลเซียมและคลอไรด์ มีคุณสมบัติช่วยบรรเทาความเมื่อยล้า รักษาอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่าาาา

บ่อน้ำพุร้อนแห่งคิโนะซากิออนเซ็น!!!

สะพานย่านคิโนะซากิ ตื่นเช้า ๆ มาสูดบรยากาศที่แสนจะร่มรื่น ส่วนตอนกลางคืนก็ให้ฟิลล์อบอุ่น โรแมนติกไปอีกแบบ

มาแล้วไม่ถ่ายรูปกับแลนด์มาร์คแต่ละจุดถือว่าพลาดมาก สวยทุกที่จริง ๆ ค่ะ

แวะรับประทานอูด้งที่ Kinosaki Onsen กันสักหน่อย น้ำซุปร้อน ๆ หอม ๆ อร่อยมากกกกกกกก

นอกจากนี้ทางสายการบิน JAPAN AIRLINES ยังพาเราไปแช่บ่อออนเซ็นอีกด้วยนะคะ

มูฟจากออนเซ็นมาที่ Tajimanma farmers market กันบ้างดีกว่า

สตรอว์เบอร์รี่ลูกสีแดงฉ่ำ น่าทานมากค่า

ทีนี่มีสาเกขายด้วยนะคะ

ขนมก็มีให้เลือกสรรกันมากมาย สามารถซื้อไปเป็นของฝากให้คนที่เรารักก็ได้นะคะ

มีทั้งผัก ผลไม้ให้เลือกซื้อ

จากนั้นช่วงเย็น เราจะวาปมาที่สนามบิน Tajima เพื่อเดินทางไปสนามบิน Itami

เราจะใช้เวลาอยู่บนเครื่องบินเพื่อเดินทางไปยังโอซาก้าประมาณครึ่งชั่วโมงด้วยเครื่องบินแบบใบพัดหมุน

บินถึงสนามบิน Itami โอซาก้า

บริเวณนี้จะเป็นเลานจ์ของสนามบิน Itami

ออกเดินทางจากสนามบินคันไซเพื่อกลับกรุงเทพฯ

เลานจ์ซากุระของสนามบินคันไซก็มีให้ใช้บริการนะคะ

มีอาหาร เบียร์ ไวน์ ข้าวหมูทงคัตสึ สปาเก็ตตี้ให้เราทานระหว่างรอ Boarding time

อาหารแบบบุฟเฟต์มีให้บริการ

ชั้น Business class ที่เราใช้บินกลับไปยังกรุงเทพฯ ที่นั่งใหญ่ สะดวกสบาย มีทีวีให้ดู คนญี่ปุ่นและต่างชาตินิยมใช้กันมากที่สุด

อาหารในไฟล์ขากลับ เฉพาะเครื่องดื่มขอได้ไม่อั้น เดินทางถึงกรุงเทพเวลา 05:00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมงครึ่งค่ะ

สุดท้ายนี้นู๋JUBขอขอบคุณสายการบิน JAPAN AIRLINES Toyooka City ที่ดูแลเทคแคร์เป็นอย่างดี หากใครสนใจมาสัมผัสบรรยากาศและประสบการณ์ดี ๆ ในรูปแบบทัวร์กรุ๊ปเหมา Incentive สามารถติดต่อ Jubilee Travel ได้เลยค่า


สิ่งที่ควรเรียนรู้ก่อนไปเที่ยว : Toyooka City, Hyogo Prefecture เที่ยวเมืองรอง ไม่ลองได้ไง!!!

รายละเอียดเพิ่มเติม

Takeda Castle Ruins

  • ที่ตั้ง : 669-5252Asago169 Wadayamacho Takeda
  • เวลาให้บริการ : 8:00 – 18:00 น.
  • วิธีการเดินทาง : สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีทาเคดะซึ่งอยู่บริเวณฐานของซากปราสาท จากสถานีฮิเมจิ ขึ้นสายเจอาร์บันทันไปยังสถานีทาเคดะ จากสถานีทาเคดะสามารถเดินเท้าไปยังปราสาทใช้เวลา 40 นาที หรือขึ้นรถบัส 20 นาทีและเดินต่อ 20 นาที นอกจากนี้จากสถานีทาเคดะสามารถเดินทางต่อไปยังสถานีคิโนซากิออนเซ็นทางเหนือ

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/6A8n58A6h8M8EX6c7

Izushi town

  • ที่ตั้ง : 668-0221Toyooka189 Izushicho Machibun
  • เวลาให้บริการ : 10:00 – 15:30 น.
  • วิธีการเดินทาง : สำหรับการเดินทางที่สะดวกที่สุดก็คือ JR ที่มีรถๆฟขบวนด่วนพิเศษ วิ่งตรงจากสถานี Osaka ถึงสถานีKinosaki Onsen ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง 45 นาที และสามารถใช้พาสรถไฟเฉพาะภูมิภาคอย่าง Kansai Wide Area Pass ได้ จากนั้นจึงค่อยเที่ยวจากในตัวเมืองคิโนซะกิ ไปยังเมืองข้างๆได้อย่างง่ายดายด้วยบริการรถบัส หรือทัวร์เช้าเย็นกลับ

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/iPDhd7TSuQJMTBRv8

Genbudo Cave

  • ที่ตั้ง : 668-0801Toyooka1362 Akaishi
  • เวลาให้บริการ : 9:00 – 17:00 น.
  • วิธีการเดินทาง : จากสถานีเก็มบุโด นั่งเรือข้ามฟากประมาณ 5 นาที หรือจากสถานีคิโนะซากิออนเซ็น (Kinosakionsen Station) นั่งแท็กซี่ประมาณ 7 นาที

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/3txtGH5tXXJGZLBS6

Hyogo Park of the Oriental White Stork

  • ที่ตั้ง : 128 Shounji, Toyooka, Hyogo 668-0814 ญี่ปุ่น
  • เวลาให้บริการ : 9:00 – 17:00 น.
  • วิธีการเดินทาง : จากสถานี Osaka นั่งรถไฟไปยังจุดนัดพบที่สถานี Kinosaki Onsen ใช้เวลาประมาณ 180 นาที

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/jDSCXpTo387S9MzdA

Kinosaki Onsen

  • ที่ตั้ง : 669-6101ToyookaKinosaki-cho Yushima 1011
  • เวลาให้บริการ : 9:00 – 17:00 น.
  • วิธีการเดินทาง : จากสถานี Osaka โดยสารรถไฟ JR Limited Express Konotori ไปลงที่สถานี Kinosaki Onsen ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 45 นาที จากนั้นเดิน 5 นาที

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/FeE9CusDhURJ7wGq8


กดชมโปรแกรมญี่ปุ่น : Jubilee Travel : บริษัททัวร์ชั้นนำ หาทัวร์ทั้งตลาด หาทัวร์เที่ยว ในเว็บเดียว www.jubileetravel.co.th

Content : Ning Srepoonsub, Eye Duangkamol

Picture : Champ Naraksak

ติดตาม จูบิลี่ แทรเวิล ได้ที่